26 November 2007

Bubblé


ช่วงนี้ก็เรื่องราวรอบตัวให้ห่วงให้เครียด ปัญหาก็ยังไม่ยังหมุนเวียนเข้ามาเสมอ
ได้แต่รอวันที่จะไม่มีเรื่องที่ต้องทำให้เครียด ยังคงเชื่อว่าวันที่ดีกว่าจะเข้ามา
บางที บางช่วงก็ต้องการเพลงให้กำลังใจอย่างเพลง lost ของ Michael Bubblé



ก็เพราะดีเพลงนี้ โดยส่วยตัวชอบเสียงของเขามาก ตอนได้ยินเสียงครั้งแรก
ก็ชอบเลย ก็เลยเอามาโพสไว้ในบล็อก ตอนนี้เพลงนี้เปิดทุกวันที่สถานีที่นี่
อีกไม่นานเราคงเซ็งเพราะเปิดบ่อยจัด ยังไงก็ตาม เสียงของนานคนนี้เพราะจริง

20 November 2007

เคยฝัน

นี่ก็คงใกล้ช่วงลอยกระทงที่เมืองไทยแน่ๆ เราเองก็เริ่มจำ
ไม่ค่อยได้เพราะห่างเหินจากวันเดือนปีไทยมาเกือบ 5 ปีแล้ว
เร็วเหมือนกัน นี่ก็ใกล้ เดือนสุดท้ายของปี 2007 หรือ พ ศ 2550
ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน เวลาหากเราไม่ไปตามนับ
มัน ก็ดูเหมือนว่าจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งช่วงเวลาที่เราอย่าง
จะอยู่กับมันนานๆ มันก็ดูเหมือนจะยิ่งพยายามเดินเร็วขึ้น
เดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายที่จะทำงานอย่างพนักงานชั่วคราวเพราะ
ตั้งแต่เดือนหน้า ก็เริ่มทำหน้าที่อย่างเต็มตัว อย่าง ข้าราชการ
ก็ไม่ได้รู้สึกดีใจนัก แต่รู้สึกมั่นคงขี้นมากกว่าๆ การมาอยู่นี่ ได้
ทำงานที่นี่ เหมือนกับสิ่งที่เคยฝันไว้ตอนเด็ก ว่า อยากไปอยู่ต่าง
ประเทศ อยากทำงานที่ต่างประเทศ ตอนนี้พอเวลาได้เห็น หรือ
ได้ยินคนที่ได้ไปอยู่หรือไปเรียนต่างประเทศ รู้สึกอิจฉาเขา เวลา
เห็นคนที่ทำงานต่างประเทศแล้วรู้สึกทึ่งว่า เขาทำได้ไง วันนี้ได้
มีโอกาสทำสิ่งนี้ให้กับตัวเอง ทำสิ่งที่เคยฝันให้เป็นจริง ไม่คิดว่า
จะทำได้ เคยกลัวว่าการทำงานร่วมกับฝรั่ง เราจะปรับตัวไม่ได้
จะมีปัญหาการสื่อสาร แต่ในที่สุดแล้วมันก็ไม่ยากเกินความพยายาม
ถึงแม้ว่าการมาอยู่ที่นี่จะไม่ได้มีแต่ความราบรื่น มีปัญหาที่ต้องแก้ไข
มีทุกข์มีสุขสลับไป แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องปกติของชีวิต ไม่ว่าจะอยู่ที่
ไหนซอกมุมไหนบนโลกใบนี้ เราก็คงไม่อาจหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้

ลมหนาวพัดผสมฝน ยามเช้า เสียงขูดน้ำแข็งที่เกาะบนกระจกรถยนต์
เริ่มดังขี้นสม่ำเสมอ หลังจากผ่านค่ำคืนที่เยือกเย็นอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์
เสื้อหนาวหนาๆที่เก็บล็อคไว้ในตู้ตั้งแต่หนาวก่อนนี้ ถูกนำออกมาใช้
อีกครั้ง อาทิตย์นี้เราได้ย้ายจากยูนิทงานเก่า มาสู่ยูนิทใหม่ เพื่อนร่วมงาน
ใหม่ การเปลื่ยนแปลงนี้มาจากการที่เราจะเป็นพนักงานประจำตั้งแต่เดือน
หน้าเป็นต้นไป ทางหน่วยงานต้องการให้เริ่มทันที่อาทิตย์ เราก็เข้ามา
ประจำ Unit B ทีแรกให้เราไป Unit D เราขอไปที่เก่าคือ Unit C แต่กลับ
โดนมาหยอดไว้ที่ Unit B แต่ก็ดีแล้ว หลังจากสองวันก็ได้รู้จักเพื่อนร่วม
งานใหม่ ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากนัก ไม่กลัวแล้วกับการเปลื่ยนแปลง
เพราะมั่นใจในความสามารถของตัวเอง ก็คงต้องใช้เวลาทำความรู้จัก
เพื่อนร่วมงานใหม่อีกสักพักใหญ่ ก่อนจะเกิดความคุ้นเคย ก็ดีเหมือนกัน
ได้รู้จักคนมากขึ้น

เฮ้อ หนาวๆยังงี้ง่วงนอนเร็ว จะไปอาบน้ำละ ไว้มาเขียนใหม่คราวหน้า

11 November 2007

Antwerpen ฟ้าไม่ใส ใจ Vuitton


วันเสาร์ก็ออกเดินทางจากบ้าน ไปสู่ Antwerpen ใช้เวลา
ชั่วโมงกว่าก็ถึงละ ได้โรงแรมเปิดใหม่ของ Golden Tulip ราคา
ไม่แพง แต่เหม ที่จอดรถก็ยังทำไม่เสร็จ ขับลงไปใต้ดินก็ลึก
มึดก็มึด หากโดนฆ่าที่ลานจอดรถ กว่าคนจะมาพบ สงสัยใช้เวลา
ไปหลายเดือน น่ากลัวจริงๆ ย่านของโรงแรมที่เพิ่งเปิด เป็นย่าน
ที่ทางเมืองพยายามยกระดับให้ดีขึ้น โรงแรมอยู่ติดกับสถานีรถไฟ
ที่กำลังบูรณะอยู่เหมือนกัน ย่านชอบปิ้ง อยู่อีกฝั่ง ถูกกั้นด้วยราง
รถไฟ เวลาเดินไปต้องผ่านอุโมงที่น่ากลัวมาก แบบหากกลับดีก
คนเดียวคงโดนป้นหมกอุโมงแหง๋ เราเคยไปเมืองนี่มาเมื่อ 5ปีก่อน
แต่ก็ไม่ได้ค้างคืน และไม่ได้มาย่านนี้ ครั้งนี้เนื่องจากโรงแรมอยู่
ย่านนี้ ก็เลยทำให้เห็นด้านมืดของเมือง รับรองน่ากลัว

ที่แรกจุดมุ่งหมายที่มากเมืองนี้วันเสาร์ที่ผ่านมานี้เพราะว่ามีงาน
นิทัศการหนังสือที่ใหญ่ที่สุดใน Benelux แต่สุดท้ายเนื่องด้วยอากาศ
ที่ไม่แน่นอนเลยตัดสินใจไปเดินชมเมืองย้านชอปปิ้ง และถ่ายรูป
พอดีคนที่ไปด้วยกำลังเห้อกล้องใหม่ที่เพิ่งได้มา ราคาเงี้ยะสูงปิ้ว
แต่เอาเหอะ ช่วยเป็นแรงกระตุ้นในการทำงาน เราก็เดินจุดมุ่งหมาย
เหรอะ แน่นอนละ Louise Vuitton ร้านที่อยากให้เป็นร้านโปรดแต่
งบต่ำเลยทำได้แค่ปีละใบ ประมาณเนี่ยะ ก็ไปแวะเดินชมในร้าน
ถามราคาใบโน้นใบนี้ แหม ราคาเงียะ ทำเอาขนหัวลุก แต่ก็เหอะ
หากเราจะบ้ายี่ห้อนี้ ก็คงเป็นยี่ห้อเดียวที่เราจะบ้า เพราะเรื่องเสื้อผ้า
รองเท้า เข็มขัด เราไม่ใส่ใจยี่ห้อ ส่วนมาก็สื้อจากเมืองไทย มีแพง
บ้างก็พวกยี้ห้อ Dapper Jaspal Chap Esprit Mexx Playboy หรือ
Abercrombie เข็มขัดส่วนใหญ่ 199 บาท เป็นคนไม่สนใจเรื่องยี่ห้อ
ของ เข็มขัด ถุงเท้า กกน เป็นอย่างมาก ก็มีแต่เรื่องของกระเป๋าเนี่ย
แหละ ที่ราคาแพง ทีแรกเริ่มจาก คิปลิ้ง ตอนนี้มีพอแล้ว เลิกซื้อมานาน
มีพอใช้ แล้ว ก็หันมาลองของแพงสะหน่อย อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึก
กระชุ่มกระชวย เวลาได้จับต้อง หรือใช้งาน

ก็ไม่รู้ว่าเป็นโรคชอบกระเป๋าตั้งแต่เมื่อไหร่ และที่ชอบมากๆคือยี่ห้อเนี่ยแหละ
วันนี้พอทำให้ตัวเองได้ก็ลองดูละกัน แต่สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่
ทำอะไรเกินตัวเกินไป ยี่ห้อนี้เราชอบมากๆเลยละจะบอกให้ ส่วยอีกยี่ห้อที่
มักจะซื้อเสื้อโปโลไปฝากพ่อคือ Burberry ที่ฮอลแลนด์ไม่มี ที่นี่ก็มีแต่ของ
ผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ และไปดูผ้าพันคอมา แหม๋ราคาสามร้อยยูโรกว่าๆ บ้าแน่
เอาตังค์ไปซื้อกระเป๋าหลุยส์จะดีเสียกว่า เฮ้อ โรควิตตอง เข้าสิง

ดึกละพรุ่งนี้ต้องไปทำงาน เบื่อจริง แต่เอาเหอะ เพื่อเงิน เงินๆๆๆ
ไปละ ต้องอาบด้วย

09 November 2007

ใบไม้ใบสุดท้าย


ช่วงนี้ไม่มีเวลามาลงรูปที่นี่เลย ก็ได้แต่มาเขียนเรื่องราวบันทึกไว้
เผื่อวันนึงจะกลับมาอ่าน และทำให้นึกถึงช่วงเวลานั้นที่เข้ามาเล่า
เรื่องราวตัวเอง วันนี้อากาศที่นี่ย่ำแย่มีพายุเข้ากระหน่ำ อากาศก็
หมุนเวียนทั้งลม ฝน และความหนาวเย็น แต่ก็ยังพอทนได้นะ
เพราะเคยเจอหนักกว่านี้
............................................................
ต้นไม้ละทิ้งใบ อีกไม่นานใบสุดท้ายก็คงร่วงลง บางที่การที่ต้องละ
ทิ้งบางสิ่งที่ผูกพันมานาน มันอาจดูเศร้า แต่มันอาจเป็นการเปลื่ยน
แปลงเพื่อให้ก่อเกิดสิ่งใหม่ที่อาจดีกว่า เข้ามาแทนที่ ชีวิตคนเราก็
คงเหมือนกัน การยึดติดกับอะไรบางอย่างมากเกินไป มันก็ทำให้เรา
ไม่รู้การเปลื่ยนแปลง ชีวิตคนเรามักจะเลือกทำอะไร หรือ อยู่กับอะไร
ที่เราคุ้นเคย กลัวการเปลื่ยนแปลง แต่มันก็มักหลีกเลี่ยงไม่ได้
วันนี้ชีวิตเราก็ยังดำเนินเหมือนเคย แต่การเปลื่ยนแปลงอีกครั้งก็กำลัง
จะเกิดขึ้น หลังจากที่เราได้เลือกให้เป็นข้าราชการประจำ ของที่ทำงาน
ที่ทำมาเกือบปีครึ่ง หลังจากที่ผ่านการคัดเลือก สัมภาษณ์ ที่แรกได้
จดหมายปฏิเสธ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้นก็ ได้โทรศัพท์ว่า ได้เป็นประจำ
เพราะว่าคะแนนสัมภาษณ์น้อยไปคะแนนเดียวเลยทำให้โดนปฎิเสธ
ตอนแรก จริงแล้วก็ภูมิใจเหมือนกัน กับเรื่องการสัมภาษณ์ ถึงจะโดน
ปฏิเสธตอนแรก แต่สุดท้ายก็ได้ ที่งงๆตอนนี้คือว่าเรายังไม่ได้เป็นคน
ดัชเลย หวังว่าเขาคงไม่ขับเราออกตอนหลัง แต่เราก็เขียนชัดเจนใน
ประวัติ ว่ายังถือสัญชาติไทย หากมาปฎิเสธเราตอนหลังดื้อคงไม่ยอม
ง่าย ๆ วันนี้ก็ได้อีเมล์จากฝ่ายบุคคลว่าเราต้องเข้าไปประจำที่ยูนิท D
ทีแรกก็หวังว่าจะได้กลับไปอยู่ที่ยูนิท C เพราะเคยอยู่นี่ยูนิทนี้ตั้งแต่เริ่ม
ทำงานที่นี่จนเมื่อการเปลื่ยนแปลงเมื่อเดือนตุลาที่ผ่านมา เมื่อพนักงาน
ชั่งคราวทั้งหมดถูกแยกไปเป็นเป็นยูนิทใหม่ ตอนนี้เราต้องแยกอีกครั้ง
หลังจากไม่ถึงสองเดือนของการเปลื่ยนแปลง ตื่นเต้นเหมือนกันสำหรับ
การเปลื่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เราจะได้ไปประจำในยูนิทใหม่ ก็หวังว่าจะ
ได้เพื่อนร่วมงานดีๆ ไม่กลัวแล้วละ ตอนนี้ เพราะเราไม่ใช่คนเดิม รู้สึก
ว่าเข้มแข็ง และพร้อมที่จะสู้สุดหัวใจ กะวะ ไม่เกิน 5 ปีจะเป็น M ให้ได้
แล้วค่อยดูกัน
..................................................................
พรุ่งนี้ไปเที่ยว Antwerpen คิดว่าคงเจอฝนแหละ ก็ตั้งใจไปพักผ่อนให้
เหมือนกัน รู้สึกว่าชีวิตที่ผ่านมา ไม่ได้ทำอะไรที่ต้องการเพียงพอ
ไม่อยากติดค้างอะไรให้กับตัวเอง ชีวิตคนเราสั้นยาวมิอาจรู้ บางที่อะไร
ที่ทำให้ตัวเองมีความสุข และไม่สร้างความทุกข์ให้คนอื่นก็ทำไปเหอะ
วันนี้พอละกัน มีงานบ้านต้องทำอีก ไปละ