01 December 2005

หมู่เกาะ สุรินทร์ สวรรค์คนเริงเืมือง



ครั้งนึงในทีสุด 1 ทหารเสือกับ 2 ทหารพยูน ก็เลือกที่จะแวะเกยตื้นที่หาดไม้งาม
ณ.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ที่แรกเราคาดหวังว่าจะได้เกยกัน
ที่บริเวณอ่าวช่องขาดแต่เนื่องมาจากเหตุการณ์สึนามิ
บริเวณหาดมีขนาดเล็กลงไม่ใหญ่พอ
ให้สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดอย่างเราๆได้พักพึง


ความเป็นธรรมชาติของที่นี่สร้างความประทับใจให้พวกเรา
แถมไปแบบวันเปิดอุทยาน อะไรก็ดูเป็นธรรมชาติ
เหมาะก้บเสือสิงห์ กระทิง แรด อย่างเราๆ เหมือนกับที่เราคาดหวังจะได้มาพบ
กับการเดินทางที่ต้องใช้เวลาร่วม 11 ช.ม จากกรุงเทพ
ที่แรกไฮโซอย่างเราๆกะจะขึ้นเครื่องมา พอดีเดิ้ยนอยากลองของแปลก
เลยตกลงใจกันลากกระเป๋าเดินทางไปสายใต้
หมายปอง 32 ที่นั่ง VIP (เหมาะกับคนมีสไตล์ ต้อง VIP)
แต่สุดท้าย 36 ที่นั่งก็ยังไม่ได้ ก็คงเป็นเพราะเป็นช่วงลอยกระทงพอดี
สุดท้ายที่ได้มาก็ 38 ที่นั่ง อย่างไรก็ตามคนมีบุญอย่างพวกเรา
ก็ได้นั่งแบบเหมือนเหมาคัน เพราะทั้งคันรถทัวร์มีคนประมาณ 10 คนเท่านั้น
เราจึงได้แบบ ซื้อ 3 ที่นั่ง แต่ได้แบบ 8 ที่แทน



งานอดิเรกของเราเมื่อยามว่างจากธุรกิจ
คือนการมาพักผ่อนหย่อนใจ
แน่นอนเนื่องจากความงามที่ไม่น้อยหน้าใครและความสามารถในการโพสท่า
รูปที่ถ่ายออกมาจึงไม่มีเสียเลยสักรูป
วันนั้นความงามของท้องทะเลตลอดช่วงที่เราอยู่อาจดูสดใสมาเป็นพิเศษ
คงเป็นเพราะมีเราเป็นจุดเด่นเข้ามาสร้างประกายให้ท้องทะเล


หาดทรายขาวสะอาด นั่งมองแล้วเพลินตา
แม้ยามค่ำคืนที่นี่แสงนิออนจะดับลงช่วงสี่ทุ่ม
แต่แสงนวลจากดวงจันทร์ก็ทอประกายสว่าง
เป็นครั้งแรกของเราที่ได้มาลอยกระทงขอขมาเจ้าแม้คงคา
ที่ได้เผลอพลั้งขับน้ำอันไม่สะอาดออกมาสู่ท้องน้ำและท้องทะเล
กระทงที่ทำมาจากขนมปังของเรา มิอาจต้านกระแสคลื้นที่พัดหวน
มินานนักการะทงก็ละลายไปกับคลื้นเพื่อไปเป็นอาหารสำหรับปลาที่โชคร้าย
เขาเล่าว่าก่อนหน้าสึนามิ มีนีโมตัวน้อยๆเต็มไปหมดบริเวณอ่าวช่องขาด
แต่วันนี้ก้นทะเลอ่าวช่องขาดมิเหลืออะไรเลยนอกจากทรายสีขาวที่นอนก้นอยู่
และไม่อาจจิตนาการได้เลยว่าก่อนหน้านี้เคยเป็นอะไรมาก่อน
นีโมที่โดนพัดหายไปต่างรวมใจกันไปเกยตื้นที่หาดจตุจักร
เราก็ได้แต่หวังว่าวันนึง นีโมและปลาอื่นๆ จะพัดหวนกลับมา
เมื่อยามที่กระแสน้ำไหลทวน



ความสวยงามที่ยังเหลืออยู่ก็หาดูได้ที่อ่าวจาก
ปะการังที่เหลือรอดจากภัยธรรมชาติ
เราๆก็ได้ร่วมดื่มด่ำกับความงามของตัวเราและธรรมชาติ ฝูงปลาเล็กใหญ่
ว่ายเวียนไปมา เปรียบตัวเหมือนเงือกน้อยในทะเลกว้าง
ที่ว่ายไปมากับเพื่อนพยูนที่ลอยอืด 2 ตัว
เราทั้งสามนั้นโชคดีที่มีโอกาสได้เห็นฉลาม 2 ชนิด และเต่าทะเล
แต่ด้วยความแปลกของเรานั้นทำให้ทั้งฉลามและเต่าทะเล
ว่ายหนี้ด้วยความกลัว การท่องเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ครั้งนี้
เราได้เห็นธรรมชาติของจริง ได้นอนเต้นท์ และคืนแรกกับพายุฝน
แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ยามเช้าสดใสมีลิงน้อยใหญ่
กระโดดไปมาเหมือนมาทักทายคนหน้าตาดีอย่างเราๆ
เฮ้อ เป็นสุขจริงกับท้องทะเลสีครามของเมืองไทย


ขอบคุณ หมู่เกาะสุรินทร์และคณะทัวร์

29 November 2005

แวะเดี๋ยวที่สนามบินฮิทโธล


เมื่อวันที่ 23 คุลาคม ออกเดินทางจาก อัมส์เตอร์ดัมสู่บางกอกของเรา
แต่ต้องอ้อมไปเปลื่ยนเครื่องที่ ลอนดอน
เลยได้โอกาสเดินเล่นในสนามบินฮิทโธล กว่า 4 ช.ม
เล่นเอาขาแข้งเมื่อยมาก ร้านค้ายี่ห้อเรียงรายไม่กล้าเดินเข้าไปถามราคา
เพราะคงไม่มีปัญญาจับต้องเป็นเจ้าของ
ก็ได้แต่เดินเข้าออกดูหมีของห้างแฮร์รอด
ที่เลื่องชื่อและก็ดูของฝากนานาๆ
แต่สุดท้ายเหรียญปอนด์ที่อุตส่าห์แบกข้ามทะเล
ก็ได้ใช้ไปเพื่อน้ำเปล่ามาขวดนึง
ที่แรกไปขอแลกเป็แบงค์ แต่ต้องเสียค่าคอมมิสชั่นดูแล้วไม่คุ้ม
เลยทนเก็บเหรียญไว้ต่อ


สนามบินฮิทโธล ถือเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
อาคารที่เราใช้ในการเดินทางก็เป็นอาคาร 4 ดูเก่าๆ เก้าอี้หลายตัวสกปรก

บางตัวก็พัง กลิ่นในสนามบินก็ไม่ค่อยน่าชื่นชมเท่าไหร่นัก

เทียบไม่ได้เลยกับ อาคาร 2 ของประเทศไทยเราที่สอาด

แต่ก็เพราะว่าอาคาร 4 ของฮิทโธลนั้นมีคนมากมายหลากหลายชาติเข้า-ออก

มากกว่าของไทยเราด้วยและก็สร้างมาเป็นเวลานานกว่าของไทยเราโขอยู่เหมือนกัน

ก็คงว่าเขาไม่ได้ แต่คาดว่าก่อน โอลิมปิกปี 2012 ที่ลอนดอนเป็นเจ้าภาพ

ทางประเทศอังกฤษคงเตรียมการปรับปรุงสนามบินไว้แล้ว

เที่ยวบินของเราออกเวลา 22.15 น ที่เกท 10 เราก็ไปนั่งหลับรออยู่สักพัก
เห็นคนไทยพอสมควรที่ต้องเดินทางเที่ยวบินเดียวกัน
แต่ก็ไม่ได้ไปทักทายเพราะขี้เกียจ อยากอยู่เงียบๆมากกว่า
ความจริงเวลากว่า 4 ช.ม ที่เดินอยู่ในสนามบินมันก็เกินพอแล้ว
ดีใจ ณ เวลานั้นที่จะได้กลับไปเที่ยวเมืองไทยอีกครั้ง

ขอบคุณ คุณสนามบิน

02 August 2005

สวนสนุก !! กับคนที่ชอบความตื่นเต้น

 



เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวสวนสนุกของที่นี่อีกครั้ง
มีชื่อว่า Walibi แต่ก่อนใช้ Six Flags เพิ่งเปลื่ยนปีนี้เอง
ตั้งแต่มาอยู่นี้ก็ไปเป็นครั้งที่ 4 แล้ว หากรวมครั้งที่ไปแล้วเขายังปิดทำการอยู่ด้วย
ก็เป็น 5 ครั้งแล้ว ก็เฉลี่ยต้องไปทุกปี ปีไหนโชคดีก็ไปได้หลายหน
ครั้งนี้ได้ไปกับเพื่อนเกลออีก ก็สนุกเหมือนเดิม
สวนสนุกที่นี่มีของรถไฟเหอะหลายอันซึ่งเราก็ชอบมาก
แม้ว่าวันนั้นจะเจอฝนไปสองรอบ
ทำให้เครื่องเล่นต้องหยุดให้บริการจนกว่าฝนหยุด
แต่ก็ไม่นาน แถมโชคดีที่ไม่มีคนมากในวันนั้นเลยไม่ต้องรอคิวนาน
ที่นี่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลหรือเสาร์อาทิตย์
จะพยายามเลี่ยงไม่ไปเพราะคนเยอะและอาจต้องรอนาน สิ่งนึงที่ชอบสำหรับสวนสนุกที่นี่ไม่ได้มีไว้แค่เด็กหรือวัยรุ่น
แต่เป็นสำหรับทุกวัยจริงๆ สวนสนุกที่นี่ก็กว้างขวางแต่ทำเลที่ตั้งนั้น
อยู่ไกลจากตัวเมืองมาก
จึงค่อนข้างลำบากหากไม่มีรถส่วนตัว
แม้กระนั้นก็ตามก็ไม่อาจหยุดความกระหายของผู้คน
ที่ชอบความท้าทายและความสูง เข้ามาเยือนที่นี่ตลอดเวลา หากเรามีโอกาสอีกครั้งในปีนี้ก็คงจะไม่ยอมพลาด
ที่จะกลับไปเติมแต่งความตื่นเต้นให้กับชีวิตอีก
ก่อนที่สวนสนุกจะปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาว


ขอบคุณ คุณสวนสนุก

19 July 2005

Harry Potter and the Half Blood Prince



เพิ่งได้อ่านหนังสือ Harry Potter No 6 And The half blood price
จบเมื่อเช้านี้ หนังสือเล่มนี้ออกวางจำหน่ายทั่วโลกเมื่อวันที่ 16 ก.ค ที่ผ่านมา
เรื่องเราวของแฮรี่ ก็ยังคงเป็นที่นิยม และสำหรับเราก็ไม่ผิดหวังนักกับเล่มนี้
เรื่องราวมีความละเอียดและมีคำตอบของคำถามที่ค้างคาจากเล่มก่อนๆ ด้วย
ความเข้มข้นในเนื้อเรื่องแม้ไม่มีตัวร้ายอย่างโวลดามอร์ด
ออกโรงมาปะทะเวทมนต์ แต่ก็มีการต่อสู่และที่แน่นอน
คือการสูญเสียตัวเอกที่หลายคนเฝ้ารอด้วยความกระหาย
ของความอยากรู้ว่าจะเป็นใคร
และจะเป็นใครที่เป็นแฟนสาวของแฮรี่ ก็จะรู้ได้ในเล่มนี้
ที่แน่ก็คือว่าทุกความสงสัยที่จะเกิดขึ้นเสมอในต้นเรื่อง ท้ายเรื่องก็มักจะมีคำตอบ
และเมื่ออ่านไปถึงตอนนั้นก็คงไม่อาจวางหนังสือลงได้
ตอนนี้ก็คงต้องตั้งตารออีกครั้งกับเล่มสุดท้าย
ที่ยังไม่รู้ว่าจะออกมาวางตลาดเมื่อไหร่ ก็หวังว่าเร็วที่สุด
เพราะเรายังต้องการรับรู้ว่าจุดสิ้นสุดของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
หากฮ็อกวอร์ดไม่สามารถเปิดให้ไปเรียนได้
แล้วแฮรี่ละจะกล้บไปเรียนอีกไหมเมื่อเขาอายุ 17 ปี
เรานักอ่านก็คงต้องรอกันต่อไปว่าเมื่อไหร่

ขอบคุณ JK Rowling

01 June 2005

ล่อง Italy ตอนใต้



เมื่อคืนนี้ได้อ่านหนังสือเล่มนึงจบ
หลายคนคงรู้ว่าเราชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเดินทาง
เราชอบที่จะเรียนรู้หรือเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากนักเขียนหลายๆท่าน
ที่มีโอกาสได้ไปเยือนในสถานที่ต่างๆในโลกกลมๆใบนี้
บางคนก็มีการเขียนที่สนุกน่าอ่าน มีการแฝงความคิดและ
เรื่องราวเพิ่มที่เราไม่ต้องเสียเวลาในการค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลอื่น
การเป็นนักเขียนที่ดีนั้นควรเริ่มจากการเป็นนักอ่านมากก่อน
เพราะการที่เราจะสามารถขีดเขียนเรื่องราวเรื่องนึงให้ออกมาเป็นเล่มนั้นคงไม่ง่าย
ต้องใช้เวลาสร้างสมประสบการณ์กว่าจะมีหนังสือสักเล่มนึงออกมาให้คนอ่าน

การเลือกซื้อหนังสือท่องเที่ยวควรต้องใช้เวลาสักนิด
ก่อนที่จะซื้อหนังสือเราควรอ่านดูคร่าวๆ
หรืออ่านท้ายเล่มดูเพราะส่วนใหญ่นักเขียนจะฝากถ้อยคำจากเรื่องราวที่เขาเขียนไว้
แค่กระนั้นเราก็อาจทราบได้ว่าหนังสือเล่มนั้นน่าอ่านหรือไม่
และสำหรับเล่มที่เราเพิ่งอ่านจบไปนั้นชื่อว่า
ล่องอิตาลี่ตอนใต้ เป็นหนังสือที่เราซื้อตราด
นับว่าเป็นหนังสือที่มีดิไซน์หน้าปกได้อย่างสวยงามราคาก็ตกที่ 190 บาท
ภายในก็มีเรื่องราวการเดินทางของนักเขียนกับคณะทัวร์จากกรุงโรม
ลงใต้ไปที่เนเปิ้ล ต่อเรือไปที่เที่ยวเกาะซิซิลี และก็กลับมาสู่เนเปิ้ล
เพื่อไปชมทางฝั่งทะเลตะวันออกของอิตาลี่
มีการเล่าเรื่องราวได้ค่อนข้างน่าอ่านแถมประวัติความเป็นมาของบางสถานที่
นับว่านักเขียนมีการเก็บข้อมูลหรือสนใจในเรื่องราวความเป็นมา
ของอิตาลี่เป็นอย่างดี มีการใส่อารมย์ความรู้สึกเข้าไป
ถือเป็นหนังสือที่อธิบายอิตาลี่ตอนใต้ได้ดี
ทำให้เราสนใจจนอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับรู้ถึงความงดงาม
และความเป็นมาของประเทศอิตาลี่มากยิ่งขึ้น เราเคยได้ไปแต่กรุงโรม
ก็ทำให้เห็นถึงความเก่าแก่ที่ตั้งตระงานเต็มใจกลางกรุง
ซากปรักหักพังยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นไอของอดีตที่บอกให้เรารับรู้ว่า
ที่นี่ครั้งนึงคือความเจริญสูงสุดในอดีต

ขอบคุณนักเขียน

20 May 2005

Koh Kood, Andaman on the Eastcoast


เพิ่งได้เริ่มทำหน้าของประเทศไทย เกี่ยวกับเกาะกูด
เรื่องราวการท่องเที่ยวที่มิได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แน่นอนชีวิตต้องมีการพักผ่อน
และทางเลือกหนึ่งที่ดีที่สุดก็คือ การเข้าหาธรรมชาติ สำหรับเราแล้ว ท้องทะเลสวยงาม
ถือเป็นรางวัลที่จะพยายามให้กับชีวิต
เราจะพยายามเดินทางเพื่อไปทักทายท้องทะเล ที่เรารัก


ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทางทั้งสอง
หากไม่มีพวกเขา เราก็คงไม่มีโอกาสไป กับการตัดสินใจฉับพลัน
กับการเดินทางไปเกาะกูดช่วงวันหยุดเทศกาล
นับว่าเราโชคดีที่ยังพอเหลือที่ไว้ให้คนรักทะเลอย่างเรา ได้เข้าไปพบ เห็น ถ่ายรูป
และนำเรื่องราวมาบันทึกไว้ในเวปไซด์ เราก็ไม่รู้ว่า
จะเป็นอีกเมื่อไรที่จะมีโอกาสได้ไปกล่าวทักทาย ท้องทะเล อีกครั้ง


ขอบคุณทะเลกับเพื่อน