29 April 2006

Belgium - goodbye Bouillon


(ต่อ)

เราก็กลับมาถึงโรงแรมสิบห้านาทีก่อน หกโมง มีเวลาน้อยนิด
ก็ได้อาบน้ำอาบท่าก่อนลงไปหาอะไรกิน จริงๆแล้วก็ตกลงใจว่าจะ
กินหอยแมลงภู่นึ่ง เห็นมีอยู่หลายร้านเลย ถัดจากเบียร์ ช็อคโกแลด
ก็มีหอยแมลงภู่เนี่ยที่ขึ้นชื่อ ในเบลเยี่ยม หากใครเคยไปบรัสเซล
ก็อาจเห็นร้านอาหารขายหอยแมลงภู่ตั้งอยู่กลาดเกลี่อน เราเองก็
ชอบกินมากๆเสียด้วย พอจบของคาวก็ตบท้ายด้วยของหวาน ทำเอา
แน่นเหมือนกัน เห็นคนขายหอยบอกว่าที่เมืองเล็กๆนี้มีร้านอาหารไทย
ด้วย ก็ไม่คิดเหมือนกัน ไม่งั้นอาจจะลองไปอุดหนุน


ค่ำคืนที่นี่เงียบสงัดเลว คงเป็นเพราะเป็นเพียงเมืองเล็กๆท่ามกลางหุบเขา
และยังไม่ถึงฤดูท่องเที่ยว จึงทำให้คืนวันเสาร์ไม่มีอะไรนอกจาก แสงจาก
อาคาร กับถนนที่ว่างเปล่า ทอดยาวรอวันที่จะมีผู้คนมาแวะเวียน


เช้าวันอาทิตย์มีหมอกปกคลุมเมือง แป็ปเดียวก็ไปร่งสดใส ก่อนออก
จากเมืองเราแวะเข้าชมปราสาท Bouillon ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาล้อม
ด้วยแม่น้ำ สร้างตามยุทธศาสตร์การรบ บนปราสาทก็สามารถมองเห็น
วิวของเมืองได้ชัดเจน ให้ความรู้สึกถึงทหารที่เข้าเวรยามดูแลเมืองใน
อดีต โชคดีที่พอดีมีการแสดงโชว์นก เช่น นกฮูก เหยี่ยว และ อีแร้ง ที่
ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ดูแล้วก็ไม่อยากเชื่อว่านกที่มีขนาดใหญ่
จะยอมรับการฝึกฝนจากมนุษย์อย่างเราๆ


หลังจากนั้นเราก็ตัดสินใจลา Bouillon นี่อาจเป็นครั้งแรกและครั้ง
เดียวที่เรามาที่เมืองนี้ื ไม่เสียใจ แม้จะมีขี้หมาบ้างตามริมทางเดินก็ตาม
แต่มนต์เสน่ห์ของเมืองนี้ก็จะยังคงอบอวน และไม่มีวันเลือนลาง

Bye Bouillon

(มีต่อ)

Belgium - visit Orval


(ต่อ)

หลังจากที่เดินสำรวจเมือง Bouillon และนั่งพักดื่ม เราก็ต้องบึ่งรถกันไปต่อที่
โรงเบียร์ Orval อยู่ที่เมือง Villers-devant-Orval ประมาณ 35 กม
จาก Bouillon ที่นี่เป็นโรงเบียร์เก่าแก่ที่ริเริ่มโดยนักบวช สำหรับที่เบลเยี่ยมนี่
ไม่แปลกเพราะเบียร์ส่วนมากที่นี่มักจะมาจาก Abbey ที่นักบวชอยู่แต่ของ Orval
นี้โรงเบียร์ได้ปรับเปลื่ยนให้ทันสมัยและกลายเป็นธุรกิจที่สำคัญของพระ ปีนี้เราโชค
ดีที่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชม ถึงแม้เราจะไม่ค่อยใส่ใจนักกับขั้นตอนการผลิตเบียร์
แต่ก็เป็นคนที่ชอบกิินเบียร์คนนึง แต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่าเบลเยี่ยมเป็นประเทศของ
เบียร์ พอได้มาที่นี่ก็ถึงกับอึ้งที่ประเทศเล็กๆอย่างเบลเยี่ยมกลับมีเบียร์เป็นร้อยๆยี่ห้อ
แถมหลากหลายรสชาดและที่สำคัญ ความเข้มของแอลกอฮอล์ก็ต่างกัน แม้่กระทั้ง
เบียร์ยี่ห้อเดียวกัน ก็ให้รสชาดต่างกันขึ้นอยู่กับวันผลิต หากเก็บบ่่มไว้นาน ก็จะ
ให้รสชาดอีกแบบนึงได้


กลับมาที่เบียร์โอร์วาล หลังจากที่ชมโรงงาน ก็แน่นอนว่าต้องได้ชิมเบียร์ฟรี เพราะ
เป็นปรกติของทุกโรงเบียร์ เราเคยไปดูงานที่โรงเบียร์ไฮนีเก้นที่นนทบุรี ก็ได้กินเบียร์
ฟรีเหมือนกัน โอวาลก็เป็นเบียร์สีเข้ม (dark beer) รสชาดก็เข้าข้นกว่าเบียร์
ที่เมืองไทย ยิ่งได้กินกับชีสที่เขาเสริฟฟรี ยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่ สุดท้ายก็ยกเบียร์
กลับมาลัง พร้อมชีสอีกโลนึง


นอกจากการได้เข้าชมโรงเบียร์ซึ่งอยู่ในพื่นที่ของวัด(ขอเรียกเป็นวัดดีกว่า)
เราก็แวะเขาไปชมส่วนของวัด พี่นที่ล่องรอยเก่า ซากปรักหักพักที่ถูกเผาทำลาย
ไปในช่วง French revolution มองแทบไม่เห็น ถึงความเป็นมาของอดีต
แต่ก็สามารถรู้สึงถึงความเก่าแก่ กลิ่นไอของอดีตที่ยังคงอบอวนไปทั่วขอบเขต


เดินบนรอบบริเวณนี้ก็เล่นเอาขาแข้งเมื่อยเหมือนกัน เบ็ดเสร็จก็ร่วมเกือบ 5 โมง
เย็น แล้วก็ขับรถกลับไป Bouillon

(มีต่อ)